วันสาก (สาร์ท) กวย ขึ้น ๑๔ - ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐



#ประเพณีสากกวย (สาร์ทกูย) (ขึ้น ๑๔- ๑๕  ค่ำเดือน ๑๐) ตรงกับวันที่ ๑๒ - ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒
➡️เทศกาลสาร์ทของชาวกวย เริ่มต้นในวันขึ้น ๑๔ ค่ำและ ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ของทุกปี (ปีนี้ตรงกับวันที่ ๒๓ - ๒๔ กันยายน ๒๕๖๑) เพื่อสืบทอดการปฏิบัติมาแต่โบราณ เป็นเทศกาลของการรำลึกนึกถึงผู้มีพระคุณ ทั้งที่ล่วงลับไปแล้ว และยังมีชีวิตอยู่ ตามความเชื่อทางพระพุทธศาสนาและชาติพันธุ์
งานวันแรก ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐
➡️ โดยช่วงเช้าถึงช่วงสาย ของวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๐ สำหรับท่านที่บุพการีหรือผู้มีพระคุณได้ล่วงลับไปแล้วนั้น ลูกหลานก็จะพากันทำพิธีอุทิศบุญไปให้ ณ สถูป เจดีย์ ที่บรรจุกระดูก โดยมีการเซ่นไหว้ นิมนต์พระมาสวดมาติกาบังสุกุลอีกด้วย บ้างก็นำอาหารคาวหวานที่หลากหลายมาเซ่นไหว้ บ้างก็นำเถ้ากระดูกออกมาชำระล้างทำความสะอาดด้วยน้ำมะพร้าว น้ำปรุง น้ำอบน้ำหอม แล้วแต่ความสะดวก จะทำอย่างนี้ทุกครอบครัว ส่วนครอบครัวใดที่กระดูกบิดามารดาไม่มี จะนิมนต์พระสงฆ์ไปที่บ้านเพื่อทำมาติกาบังสุกุล และทำการเซ่นไหว้ที่บ้านแทน กระทำอย่างนี้มีขึ้นนับตั้งแต่เช้าจนค่ำ บางครอบครัว เถ้ากระดูกของพ่อแม่ หรือตายายอยู่อีกหมู่บ้าน ปู่ย่าอยู่อีกหมู่บ้าน ก็ต้องทำพิธีเหล่านี้ในสถานที่นั้นๆ จนครบ


➡️ สำหรับช่วงเวลาสายถึงบ่าย เป็นช่วงเวลาของผู้มีพระคุณที่ยังมีชีวิตอยู่ โดยลูกหลานจะนำของดี ๆ เป็นต้นว่า ข้าวปลาอาหาร ของคาวของหวาน หรือสิ่งของเครื่องใช้อื่น ๆ นำไปมอบให้กับผู้มีพระคุณให้ท่านได้ทานได้ใช้ แล้วก็ถือโอกาสกราบขอพรท่านด้วยด้วย ซึ่งผู้รับคือบิดา มารดา ปู่ย่าตายาย ก็จะให้พร นำของต่างๆ เหล่านั้น แจ้งบูชาต่อสิ่งศักดิ์ในบ้านให้ตามคุ้มครองลูกหลาน ให้ได้รับแต่สิ่งดีๆ ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง

➡️ สำหรับช่วงบ่ายแก่ๆ เย็นถึงค่ำ จะเป็นการเซ่นไหว้อีกครั้ง เป็นการเซ่นไหว้แบบครอบครัว มีเครื่องบูชาเซ่นไหว้แบบสมบูรณ์พูลผล พร้อมทั้งมีเครื่องสักการะบูชาผีบรรพบุรุษมากมาย เป็นการรวมญาติที่ยิ่งใหญ่ และมีความสำคัญในระบบครอบครัวขนาดใหญ่


งานวันที่ ๒ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐
➡️ ตั้งแต่ช่วงเช้าต่อเนื่องไปถึงบ่ายแก่ ๆ ของวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๐ เป็นวันทำบุญตักบาตรตอนเช้า หลังจากตักบาตรเรียบร้อยแล้ว แต่ละหลังคาเรือนจะมีการนำข้าวของเครื่องใช้ ของกินของทาน อาหารคาวหวานอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นของสำหรับคนตาย ซึ่งจะเขียนชื่อผู้ตายไว้ในกระดาษ เสร็จแล้วพระสงฆ์จะสวดมาติกาบังสุกุล ลูกหลานนั้นจะกรวดน้ำเรียกพ่อแม่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วให้มารับของที่นำมาให้ และต่อจากนั้นเมื่อเสร็จพิธีสงฆ์แล้ว จะมีการเรียกชื่อตามสลากที่ได้เขียนไป โดยผู้เฒ่าผู้แก่จะเป็นคนอ่าน เช่น "สาก สาก นาย ก. นาง ข. ผัวเมียลูกเต้า มีข้าวปลาอาหารคาวหวานอุทิศให้แม่...พ่อ...กระบุงหนึ่งใหญ่ๆ" เวลาเดียวกัน นาย ก. กับ นาง ข. ก็ต้องยกสิ่งของเหล่านั้นชูสูงขึ้น เพื่อให้ผีบรรพบุรุษที่รออยู่บริเวณนั้นได้เห็นและเข้ามารับเอาของไป แล้วในเวลาเรียกชื่อในสลากนั้นเอง นาย ก. กับ นาง ข.ก็พูดตามแต่ตั้งใจ เช่น "พ่อแม่มารับเอาของเด้อ ลูกหลานได้อุทิศของกินของใช้มาให้แล้วเวลานี้"จะมีการกล่าวอย่างนี้ทุกสลากที่เขียน ซึ่งใช้เวลาตั้งแต่ช่วงสายไปจนถึงบ่ายแก่ ๆ จนครบทุกคน และสิ่งของทั้งหมดจะทำการเทกระจาดหรือแจกจ่ายให้คนอื่นทั้งหมด หมายความว่าเป็นการแจกทานให้คนอื่น เจ้าของสิ่งของเหล่านั้นจะไม่นำของเหล่านั้นกลับมาเข้าบ้านของตนเองเด็ดขาด นั่นจึงจะถือเสร็จพิธี นี่คือประเพณีของชาวกวยที่สืบทอดกันมาตามความเชื่อ






 ➡️➡️ และปีนี้สารทกวยตรงกับวันที่  ๑๒ - ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ ซึงจะเป็นวันที่ของกินของใช้ อาหารการกินที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด เรียกได้อิ่มทั้งคนเป็นและอิ่มทั้งคนที่ล่วงลับไปแล้ว

เชิญชวนร่วมงานบุญสาร์ทเดือนสิบ #วันสากกวย ( สาร์ทส่วย ) ระหว่างวันที่ ๑๒  -  ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒

ขอบคุณภาพ :  วัดเต่าทอง บ้านตาโมม ต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม